DaaS หรือ Device-as-a-Service คืออะไร?

Device as a Service

DaaS หรือ Device-as-a-Service คืออะไร?

DaaS (Device-as-a-Service) เป็นรูปแบบการให้บริการที่ผสานฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริการสนับสนุนเข้าไว้ด้วยกัน โดยผู้ใช้งานสามารถเช่าใช้อุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน พร้อมซอฟต์แวร์ที่จำเป็น ผ่านการจ่ายค่าบริการแบบรายเดือนหรือรายปี คล้ายกับโมเดลการใช้งาน Software-as-a-Service (SaaS)

ใน DaaS ผู้ให้บริการจะเป็นผู้ดูแลการจัดหาอุปกรณ์ การติดตั้ง การบำรุงรักษา การอัปเกรด และการสนับสนุนด้านเทคนิคตลอดอายุสัญญา ช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นไปที่การดำเนินงานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการอุปกรณ์ไอทีเอง

ความแตกต่างระหว่าง DaaS กับการเช่าใช้อุปกรณ์ทั่วไป

  1. การให้บริการครบวงจร
    • DaaS รวมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการหลังการขาย เช่น การบำรุงรักษา การอัปเดต และการสนับสนุนด้านไอที
    • การเช่าอุปกรณ์ทั่วไป ส่วนใหญ่มุ่งเน้นเพียงการให้เช่าอุปกรณ์เท่านั้น ผู้เช่าต้องดูแลจัดการซอฟต์แวร์และการบำรุงรักษาเอง
  2. การยืดหยุ่นและปรับแต่งได้
    • DaaS สามารถปรับแพ็คเกจตามความต้องการขององค์กร เช่น เพิ่มหรือลดจำนวนอุปกรณ์ในสัญญา
    • การเช่าอุปกรณ์ทั่วไป มักมีข้อจำกัดในความยืดหยุ่นของการปรับเปลี่ยนสัญญา
  3. ค่าใช้จ่าย
    • DaaS ค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างในรูปแบบ Subscription ทำให้ง่ายต่อการบริหารงบประมาณ
    • การเช่าอุปกรณ์ทั่วไป ค่าใช้จ่ายครอบคลุมเฉพาะการเช่าอุปกรณ์ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการบำรุงรักษา
  4. การสนับสนุนและการจัดการ
    • DaaS ผู้ให้บริการจะจัดการอุปกรณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงการซ่อมบำรุง การอัปเกรด และการจัดการวงจรอุปกรณ์ (Device Lifecycle Management)
    • การเช่าอุปกรณ์ทั่วไป ผู้เช่าต้องรับผิดชอบการจัดการและแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง

ข้อดีของ DaaS

  1. ลดภาระงาน IT
    ผู้ให้บริการ DaaS จะดูแลการจัดการอุปกรณ์ทั้งหมด เช่น การตั้งค่า การอัปเกรด และการซ่อมบำรุง ช่วยลดภาระงานของทีม IT ภายในองค์กร
  2. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
    องค์กรสามารถมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์จะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัย ทำให้พนักงานมีเครื่องมือที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน
  3. การบริหารงบประมาณที่ง่ายขึ้น
    ค่าใช้จ่ายแบบ Subscription คงที่และสามารถคาดการณ์ได้ ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการงบประมาณและการลงทุนในฮาร์ดแวร์
  4. ปรับตัวได้ตามความต้องการขององค์กร
    สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนอุปกรณ์ตามการเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้อย่างง่ายดาย
  5. การสนับสนุนทางเทคนิคที่เชื่อถือได้
    มีทีมสนับสนุนด้านเทคนิคคอยช่วยแก้ไขปัญหา ช่วยลดเวลา Downtime และเพิ่มความพร้อมของระบบไอที

DaaS เหมาะกับใคร? (การขยายความ)

1. ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMEs)

  • ลักษณะธุรกิจ ธุรกิจ SMEs มักมีทรัพยากรจำกัด ทั้งในด้านบุคลากร การเงิน และเทคโนโลยี การลงทุนในฮาร์ดแวร์ไอทีใหม่ๆ จึงอาจเป็นภาระทางการเงิน
  • เหตุผลที่ DaaS เหมาะสม
    • ช่วยลดต้นทุนเริ่มต้น (Capital Expenditure) เพราะไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ outright
    • ค่าใช้จ่ายในรูปแบบ Subscription ที่คงที่ ช่วยให้ SMEs สามารถบริหารงบประมาณได้ง่าย
    • ผู้ให้บริการ DaaS จัดการงานด้าน IT เช่น การติดตั้งและซ่อมบำรุง ช่วยลดภาระงานของทีมงานที่มีจำกัด

ตัวอย่าง

  • บริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงาน 20 คน สามารถเช่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งซอฟต์แวร์พื้นฐาน เช่น Microsoft Office และ Antivirus โดยไม่ต้องจัดการเอง

2. องค์กรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว (เช่น บริษัทสตาร์ทอัพ)

  • ลักษณะธุรกิจ องค์กรเหล่านี้มักมีการขยายทีมงานหรือโครงการในระยะเวลาอันสั้น ทำให้การจัดหาและดูแลอุปกรณ์เป็นเรื่องท้าทาย
  • เหตุผลที่ DaaS เหมาะสม
    • ช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วเมื่อทีมงานเพิ่มขึ้น
    • การจัดหาอุปกรณ์ไม่ต้องใช้เวลาและแรงงานมาก เนื่องจากผู้ให้บริการจัดการให้อย่างครบวงจร
    • อุปกรณ์ที่เช่ามีการอัปเกรดและอัปเดตซอฟต์แวร์เสมอ เพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่าง

  • บริษัทสตาร์ทอัพที่ขยายทีมงานจาก 10 คนเป็น 50 คนในเวลา 6 เดือน สามารถเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ผ่าน DaaS ได้ทันทีโดยไม่ต้องวางแผนระยะยาวหรือใช้ทุนก้อนใหญ่

3. องค์กรที่มีการทำงานแบบไฮบริดหรือ Remote Work

  • ลักษณะธุรกิจ การทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) หรือ Remote Work ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคหลังโควิด-19 แต่การจัดหาและดูแลอุปกรณ์สำหรับพนักงานที่ทำงานจากบ้านอาจมีความยุ่งยาก
  • เหตุผลที่ DaaS เหมาะสม
    • อุปกรณ์ที่เช่าจาก DaaS มาพร้อมกับการตั้งค่าที่พร้อมใช้งาน ลดเวลาในการจัดส่งและติดตั้ง
    • ผู้ให้บริการสามารถสนับสนุนเทคนิคทางไกล (Remote Support) ทำให้พนักงานที่อยู่ห่างไกลได้รับความช่วยเหลือรวดเร็ว
    • อุปกรณ์มักมาพร้อมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสข้อมูล ช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านไซเบอร์

ตัวอย่าง

  • บริษัทที่มีพนักงาน 100 คน ซึ่ง 60 คนทำงานจากบ้าน สามารถจัดหาโน้ตบุ๊กพร้อมซอฟต์แวร์ VPN และการสนับสนุนแบบ 24/7 เพื่อให้ทุกคนเริ่มงานได้ทันที

4. องค์กรที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการอุปกรณ์ IT

  • ลักษณะธุรกิจ ธุรกิจที่มีทีม IT ขนาดเล็กมักประสบปัญหาเรื่องทรัพยากรไม่เพียงพอในการจัดการอุปกรณ์ เช่น การอัปเดต การซ่อมแซม หรือการติดตามการใช้งาน
  • เหตุผลที่ DaaS เหมาะสม
    • ช่วยลดภาระงานของทีม IT เพราะผู้ให้บริการดูแลตั้งแต่การติดตั้ง บำรุงรักษา ไปจนถึงการอัปเกรดอุปกรณ์
    • รวมบริการติดตามและวิเคราะห์การใช้งานอุปกรณ์ (Device Analytics) ช่วยให้สามารถจัดการทรัพยากรได้มีประสิทธิภาพ
    • ลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากอุปกรณ์เก่าถูกนำไปรีไซเคิลโดยผู้ให้บริการ

ตัวอย่าง

  • บริษัทที่มีทีม IT เพียง 2 คนและพนักงาน 200 คน สามารถใช้ DaaS เพื่อจัดการอุปกรณ์ทั้งหมด โดยทีม IT จะเน้นไปที่งานเชิงกลยุทธ์ เช่น การพัฒนาระบบ

สรุป

DaaS (Device-as-a-Service) เป็นโมเดลบริการที่ช่วยให้องค์กรสามารถใช้งานอุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป หรือสมาร์ทโฟน พร้อมซอฟต์แวร์และบริการสนับสนุนแบบครบวงจร โดยมีการชำระค่าบริการเป็นรายเดือนหรือรายปี DaaS เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการลดภาระงานด้าน IT เพิ่มความยืดหยุ่น และบริหารต้นทุนได้ง่าย เช่น ธุรกิจ SMEs, สตาร์ทอัพที่เติบโตเร็ว, องค์กรที่ทำงานแบบ Remote Work หรือองค์กรที่ต้องการปรับปรุงการจัดการอุปกรณ์ IT ช่วยให้องค์กรสามารถโฟกัสที่การดำเนินธุรกิจได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *