Qualcomm ได้เปิดตัวโมเด็มรุ่นท็อปสุดรุ่นใหม่ Snapdragon X80 5G และระบบการเชื่อมต่อสำหรับ Wi-Fi และ Bluetooth FastConnect 7900 ในงาน MWC2024 ที่ผ่านมา ซึ่งทาง Qualcomm เคลมว่าจะสามารถเชื่อมต่อ 5G ได้รวดเร็วด้วย AI, รองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมด้วย
ซึ่งโมเด็ม 5G เรือธงใหม่ของ Qualcomm นี้ จะมีโปรเซสเซอร์ AI เพื่อเร่งการประมวลผลสัญญาณที่จะเชื่อมต่อ 5G โดยเฉพาะ โดยทาง Qualcomm บอกว่าโมเด็มนี้นอกจากจะประหยัดพลังงานกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยลดความหน่วง (Latency) ลงไปได้ด้วย โดยชิปจะมี 5G AI Suite Gen 3 ที่จะเอา AI มาช่วยเรื่องตำแหน่ง และความครอบคลุมของสัญญาณ 5G ซึ่งทาง Qualcomm บอกว่าโดยรวมแล้วจะลดความหน่วงไปได้ 30% และประหยัดแบตเตอรี่กว่าเดิมอีก 10%
นอกจากนั้น Snapdragon X80 ยังเป็นโมเด็ม 5G รุ่นแรกที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมผ่าน Narrowband (NB) และ Non-Terrestrial Networks (NTN) ซึ่งจะทำให้สมาร์ตโฟนเรือธงที่วางขายในช่วงปลายปีนี้ รองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
Qualcomm บอกว่าโมเด็มรุ่นนี้จะสามารถดาวน์โหลดได้ความเร็วสูงสุด 10 Gbps และอัปโหลดได้สูงสุด 3.5 Gbps สำหรับการเชื่อมต่อ 5G บนคลื่น mmWave และ Sub-6 Ghz นอกจากนั้น X80 ยังรองรับสมาร์ตโฟนแบบเสาสัญญาณ 6 เสา และ การรับสัญญาณดาวน์ลิงก์แบบ Ca หรือ Carrier Aggregation ที่ดีขึ้น และใช้ AI ช่วยเชื่อมต่อเสาสัญญาณ mmWave ได้ไกลขึ้นด้วย โดยการใช้เสาสัญญาณ QTM565 เหมือนกันกับใน X75 รุ่นก่อนหน้า
ทั้งนี้ Qualcomm ได้ส่งชิปโมเด็ม X80 รุ่นตัวอย่างให้กับผู้ผลิตสมาร์ตโฟนแล้ว และคาดว่าจะได้เห็นสมาร์ตโฟนที่ใช้ชิป X80 นี้ในสมาร์ตโฟนเรือธงช่วงปลายปี 2024 นี้
โดย Qualcomm ได้ออกมาบอกด้วยว่า ตอนนี้ Qualcomm กำลังทำชิป 5G ที่ราคาถูกจนสามารถใส่ในสมาร์ตโฟนที่ราคาต่ำกว่า 99 เหรียญ (ประมาณ 3,500 บาท) ได้ ซึ่งจะทำให้มีผู้ใช้สมาร์ตโฟน 5G เพิ่มขึ้นได้อีกกว่า 2,800 ล้านราย
นอกจากนั้น Qualcomm ได้เปิดตัวระบบการเชื่อมต่อ ‘FastConnect 7900’ ที่จะรวมทั้งการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth และการเชื่อมต่อ Ultra Wideband ลงในชิปขนาด 6nm ชิปเดียว โดยสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 ที่ความเร็วสูงสุด 5.8 Gbps, Bluetooth 5.4 ที่รองรับ Spatial Audio และรองรับระบบ ANT+ ด้วย ซึ่งชิปนี้เองก็ใช้ AI เข้ามาช่วยในการเชื่อมต่อเช่นเดียวกัน โดยลดความหน่วง และลดการใช้พลังงาน โดยปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมรอบข้าง โดย Qualcomm เคลมว่าจะใช้พลังงานลดลงจากรุ่นที่แล้ว (FastConnect 7800) ไปอีก 40%
นอกจากนี้ Qualcomm ยังได้บอกว่า FastConnect 7900 จะรองรับการรับรู้ความใกล้ชิดของระยะ Wi-Fi และ Channel เสียงของ Bluetooth ด้วย และรองรับ Expanded Personal Area Network Technology (XPAN) กับ Snapdragon Seamless สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้คนละระบบปฏิบัติการกัน, การสลับเสียงตามการใช้งาน และการค้นหาอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงด้วย ส่วนฝั่งชิป Wi-Fi ก็รองรับมาตรฐาน High Band Simultaneous (HBS) สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ด้วยความหน่วงที่ต่ำลง
ทั้งนี้ Qualcomm FastConnect 7900 มีแผนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024 นี้
แหล่งที่มา :
-
- ภาพและบทความภาษาไทยคัดลอกจาก beartai.com