LED VIDEO WALL

ผลงาน

เดินสาย HDMI

ผลงาน

งานติดตั้งห้องประชุม เดินสายเดินปลั๊กไฟ

ผลงาน

งานติดตั้ง TV

ผลงาน

งานติดตั้ง TV

ผลงาน

ติดตั้ง CPU SERVER

ผลงาน

Solar cell

ผลงาน

งานเดินสายแลนติดกล้อง ลานจอดรถ

ผลงาน

งานติดตั้งกล้องวงจรปิด

Digital Signage Video Conference

มาทำความรู้จักกับจอ Interactive แต่ละประเภท จอประเภทใดเหมาะกับงานอะไรบ้าง

ในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและการทำงาน จอ Interactive หรือจอสัมผัสอัจฉริยะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและการนำเสนอข้อมูลอย่างมาก โดยเฉพาะในห้องเรียน ห้องประชุม และสถานที่ที่ต้องการการโต้ตอบจากผู้ใช้ ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทของจอ Interactive พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่าจอประเภทใดเหมาะกับงานของคุณมากที่สุด ประเภทของจอ Interactive จอ Interactive สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจจับการสัมผัส ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้ 1. จอ Interactive แบบ Infrared (IR) การทำงาน จอแบบ Infrared ใช้เซนเซอร์ที่ตรวจจับการสัมผัสโดยการตรวจจับความร้อนจากแสงอินฟราเรด ซึ่งจะมีเซนเซอร์อยู่รอบๆ ขอบจอ เมื่อมีวัตถุหรือมือไปบดบังแสง เซนเซอร์จะระบุได้ว่าตำแหน่งไหนถูกสัมผัส ข้อดี ข้อเสีย เหมาะสำหรับ ห้องเรียนหรือห้องประชุมที่มีงบประมาณจำกัดและต้องการฟังก์ชันพื้นฐาน 2. จอ Interactive แบบ Capacitive การทำงาน จอแบบ Capacitive ใช้หลักการตรวจจับการสัมผัสผ่านกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากนิ้วมือ โดยหน้าจอจะเคลือบด้วยสารนำไฟฟ้า ข้อดี ข้อเสีย เหมาะสำหรับ การนำเสนอในห้องประชุม การใช้งานในร้านค้า หรือพื้นที่ที่ต้องการความแม่นยำสูง 3. จอ Interactive แบบ Resistive การทำงาน จอแบบ Resistive ใช้แรงกดในการตรวจจับการสัมผัส โดยมีแผ่นนำไฟฟ้าที่ตอบสนองต่อแรงกดจากนิ้วมือหรือปากกา ข้อดี ข้อเสีย เหมาะสำหรับ งานที่ไม่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การใช้งานในโรงงานหรือสถานที่ที่ต้องการความทนทาน การเลือกจอ Interactive ตามประเภทงาน เมื่อทราบถึงประเภทของจอ Interactive แล้ว เรามาดูกันว่าจอแต่ละประเภทเหมาะกับงานประเภทไหน 1. การศึกษา สำหรับห้องเรียนหรือสถาบันการศึกษา จอ Interactive แบบ Capacitive จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากสามารถให้ภาพที่คมชัดและตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้เชิงโต้ตอบ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการนำเสนอข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ห้องประชุม ในห้องประชุม การเลือกใช้จอแบบ Infrared หรือ Capacitive จะขึ้นอยู่กับงบประมาณ หากงบประมาณไม่จำกัด จอแบบ Capacitive จะให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้างบประมาณจำกัด จอแบบ Infrared...

Conference Digital Signage Video Conference

ทำความรู้จักกับ Zero Bonding เทคโนโลยี ที่ต้องมีในจอ Interactive

ในยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจในวงการจอแสดงผลคือ เทคโนโลยี Zero Bonding ซึ่งเป็นการออกแบบที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของจอ Interactive ให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำและคุณภาพของภาพที่สูง Zero Bonding คืออะไร? Zero Bonding เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้แผงสัมผัสและกระจกหน้าจอถูกยึดติดกันโดยไม่มีช่องว่างระหว่างกัน ซึ่งต่างจากจอทั่วไปที่มักมีช่องว่างอากาศ (Air Gap) คั่นกลาง การออกแบบนี้ช่วยลดปัญหาที่เกิดจากแสงสะท้อนและทำให้ภาพมีความคมชัด สีสันสดใส และตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี Zero Bonding เทคโนโลยี Zero Bonding เริ่มต้นขึ้นในยุคที่การพัฒนาจอแสดงผลสัมผัส (Touch Display) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านการศึกษา ธุรกิจ และความบันเทิง ในช่วงปี 2000 เป็นต้นมา การพัฒนาจอแสดงผลที่มีคุณภาพสูงและตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งนำไปสู่การค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดปัญหาที่เกิดจากช่องว่างระหว่างกระจกหน้าจอและแผงสัมผัส การพัฒนาเทคโนโลยี Zero Bonding หรือที่เรียกว่า “Zero Gap Technology” เป็นกระบวนการที่ทำให้แผงสัมผัสถูกยึดติดกับหน้าจอ LCD โดยตรง ไม่มีช่องว่างอากาศระหว่างกัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของจอแสดงผลในหลายด้าน เช่น ความคมชัดของภาพ การตอบสนองต่อการสัมผัส และความทนทานต่อการใช้งาน ในช่วงปี 2010 เทคโนโลยีนี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจอแสดงผลแบบโต้ตอบ (Interactive Flat Panel Display – IFPD) ซึ่งใช้ในห้องเรียน ห้องประชุม และสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการการนำเสนอข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อดีของเทคโนโลยี Zero Bonding 1. ลดปัญหาแสงสะท้อน ด้วยการไม่มีช่องว่างอากาศ แสงที่ผ่านเข้ามาจะไม่กระจัดกระจาย ทำให้ภาพที่แสดงบนจอมีความชัดเจน สีสันสดใส และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้า 2. ตอบสนองไวและแม่นยำ การออกแบบที่แนบสนิทระหว่างกระจกและแผงสัมผัสช่วยให้การตอบสนองต่อการสัมผัสนั้นรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ เล่นเกม หรือทำงานกราฟิก 3. ความทนทานสูง เนื่องจากไม่มีช่องว่างระหว่างกระจกและแผงสัมผัส จึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหน้าจอ ลดโอกาสในการแตกหรือเสียหายจากแรงกดหรือกระแทก เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ต่างๆ 4. เหมาะสำหรับทุกสภาพแสง จอที่ใช้เทคโนโลยี Zero Bonding สามารถใช้งานได้ดีในทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็นในห้องเรียน...

Digital Signage

รู้จัก AVSM และ AVoIP ก่อนตัดสินใจเลือกใช้กับ Video Wall

วันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจในวงการวิดีโอวอลล์กัน โดยเฉพาะสองเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า AVSM และ AVoIP ซึ่งทั้งสองมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอเนื้อหาผ่านจอแสดงผลขนาดใหญ่ แต่มีความแตกต่างกันในหลายด้าน เรามาดูกันเลยดีกว่า AVSM (Audio Video Signal Management) ทำความรู้จักกับ AVSM AVSM ย่อมาจาก Audio Video Signal Management ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดการและส่งสัญญาณเสียงและวิดีโอในรูปแบบที่ไม่ถูกบีบอัด ทำให้คุณภาพของภาพและเสียงที่ได้มีความละเอียดสูงและชัดเจนมาก ข้อดีของ AVSM ข้อจำกัดของ AVSM AVoIP (Audio Video over Internet Protocol) ทำความรู้จักกับ AVoIP AVoIP ย่อมาจาก Audio Video over Internet Protocol ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการส่งสัญญาณเสียงและวิดีโอผ่านเครือข่าย IP โดยทำการเข้ารหัสสัญญาณเป็นแพ็กเก็ต IP ที่สามารถส่งไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็ว ข้อดีของ AVoIP ข้อจำกัดของ AVoIP สรุปความแตกต่างหลัก คุณสมบัติ AVSM AVoIP วิธีการส่งสัญญาณ ไม่มีการบีบอัด ส่งผ่านเครือข่าย IP ความล่าช้า ต่ำ อาจมีเล็กน้อย ความยืดหยุ่น ต่ำ สูง การติดตั้ง ต้องใช้สายเคเบิลเฉพาะ ใช้เครือข่ายทั่วไป การควบคุม ควบคุมจากโปรเซสเซอร์ ควบคุมจากตัวเข้ารหัส เลือกเทคโนโลยีไหนดี? ทั้ง AVSM และ AVoIP มีข้อดีและข้อเสียตามลักษณะการใช้งาน หากคุณต้องการคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดและไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้า AVSM จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการระบบที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย AVoIP จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

Digital Signage บทความ

4 เคล็ดลับ เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ ด้วย จอ Signage

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การสื่อสารกับลูกค้าในธุรกิจค้าปลีกและบริการต่างๆ ต้องมีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ จอ Signage หรือ Digital Signage ซึ่งเป็นระบบการแสดงผลที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการนำเสนอข้อมูลและโฆษณาให้กับลูกค้า ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับจอ Signage และวิธีที่มันช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ จอ Signage คืออะไร? จอ Signage หรือ Digital Signage คือการใช้จอแสดงผลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น LCD, LED หรือ OLED เพื่อแสดงเนื้อหามัลติมีเดีย เช่น รูปภาพ วิดีโอ และข้อความ โดยสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประโยชน์ของจอ Signage ในธุรกิจ 1. ดึงดูดความสนใจของลูกค้า การใช้จอ Signage ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ดีกว่าสื่อโฆษณาแบบเดิม เช่น โปสเตอร์หรือแผ่นพับ ด้วยภาพเคลื่อนไหว สีสันสดใส และการนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลาย ทำให้ลูกค้าหยุดดูและสนใจในสินค้าและบริการมากขึ้น 2. ปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้ทันที หนึ่งในข้อดีที่สำคัญของจอ Signage คือความสามารถในการปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้แบบเรียลไทม์ เมื่อมีโปรโมชั่นใหม่ สินค้าใหม่ หรือกิจกรรมพิเศษ เจ้าของธุรกิจสามารถเปลี่ยนเนื้อหาบนจอได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาในการพิมพ์หรือเปลี่ยนป้ายใหม่ 3. สร้างประสบการณ์การใช้งานที่โต้ตอบได้ จอ Signage บางรุ่นสามารถเป็นจอสัมผัส (interactive) ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้อย่างสะดวก การสร้างประสบการณ์ที่มีส่วนร่วมนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า 4. ประหยัดต้นทุนในระยะยาว แม้การติดตั้งจอ Signage ในช่วงแรกอาจมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ในระยะยาวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ป้ายโฆษณาหรือแผ่นพับซ้ำ โดยเฉพาะในธุรกิจที่มีหลายสาขา การใช้จอ Signage จะช่วยให้การจัดการเนื้อหาทำได้ง่ายและรวดเร็ว 5. เพิ่มการมองเห็นแบรนด์ การใช้จอ Signage ช่วยเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ของคุณ โดยเฉพาะเมื่อมีการแสดงโปรโมชั่นหรือสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ดีขึ้น วิธีการใช้จอ Signage เพื่อเพิ่มยอดขาย ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้น การดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำได้คือ จอ Signage หรือ Digital Signage ซึ่งเป็นระบบการแสดงผลที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการนำเสนอข้อมูลและโฆษณา ในบทความนี้เราจะมาดู 4 เคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณด้วยการใช้จอ...