IBM (ไอบีเอ็ม) ได้จัดงาน Think conference ประจำปี 2023 และได้เปิดตัว IBM watsonx แพลตฟอร์มด้าน AI และข้อมูลใหม่ ให้ภาคธุรกิจ และองค์กรสามารถเพิ่มสเกล และเร่งความเร็วในการทำงานด้าน AI ได้เร็วมากขึ้น บนพื้นฐานของข้อมูลที่ปลอดภัย และเชื่อถือได้
โดย watsonx เป็นโปรแกรมรวมชุดเครื่องมือ สำหรับการพัฒนา AI ที่สามารถเข้าถึงโมเดลระดับพื้นฐาน (Foundation Models) และโมเดลโอเพนซอร์สที่ IBM ได้คัดสรรและฝึกฝน และให้เข้าถึงที่เก็บข้อมูลเพื่อเปิดใช้งานการรวบรวมและล้างข้อมูลการฝึกอบรมและการปรับแต่ง และชุดเครื่องมือสำหรับการกำกับดูแลของ AI ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจสามารถใช้งาน AI ในแบบ end-to-end อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะทำให้ AI ปรับตัวและปรับสเกลการทำงานได้ง่ายขึ้น
อาร์วินด์ คริชนา (Arvind Krishna) ประธาน และ CEO ของ IBM กล่าวว่าการพัฒนาของโมเดล AI ในระดับพื้นฐานนี้จะทำให้ AI สำหรับภาคธุรกิจแข็งแกร่งกว่าที่เคย เนื่องจากโมเดลในระดับพื้นฐาน จะทำให้การนำ AI ไปปรับใช้ได้หลายระดับกว่า, ประหยัดกว่า และมีประสิทธิภาพกว่าด้วย
ทาง IBM ได้สร้าง IBM watsonx เพื่อรับกับความต้องการขององค์กร เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นได้มากกว่าแค่ผู้ใช้อย่างเดียว แต่ทำให้ภาคธุรกิจสร้างประโยชน์จาก AI ได้มากขึ้นด้วย ดังนั้น การมีอยู่ของ IBM watsonx จะทำให้ลูกค้าสามารถฝึกและปรับใช้ AI ตามความต้องการของแต่ละธุรกิจได้ทั้งองค์กร ในขณะที่ยังควบคุมข้อมูลของแต่ละองค์กรไม่ให้รั่วไหลได้อย่างเต็มที่
แพลตฟอร์ม IBM watsonx ประกอบไปด้วย 3 ชุดผลิตภัณฑ์ย่อยที่ทำงานได้ต่างกัน ประกอบไปด้วย
- IBM watsonx.ai : โปรแกรมสตูดิโอเพื่อองค์กรเวอร์ชันใหม่สำหรับผู้สร้าง AI เพื่อฝึกฝน ทดสอบ ปรับแต่ง และปรับใช้ทั้ง Machine Learning แบบดั้งเดิมและความสามารถของ Generative AI แบบใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยโมเดล AI พื้นฐานผ่านอินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบเปิดและใช้งานง่าย คาดว่าจะพร้อมให้ใช้งานในเดือนกรกฎาคมนี้
- IBM watsonx.data : data lakehouse ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับข้อมูลที่ถูกกำกับดูแล (governed data) และเวิร์กโหลด AI ต่าง ๆ ผ่านการสนับสนุนโดยการสอบถาม การกำกับดูแล และรูปแบบข้อมูลเปิดเพื่อเข้าถึงและแบ่งปันข้อมูล คาดว่าจะพร้อมให้ใช้งานในเดือนกรกฎาคมนี้
- IBM watsonx.governance : โซลูชัน end-to-end สำหรับการกำกับดูแล data และ AI governance ที่จะดำเนินการกำกับดูแลเพื่อช่วยลดความเสี่ยง, เวลา และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการด้วยตนเอง และจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นในการสร้างผลลัพธ์การทำงานที่โปร่งใสและอธิบายได้ และยังมีกลไกในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า, ตรวจจับความเอนเอียงและการเบี่ยงเบนของโมเดลที่ประมวลผลออกมา และช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของตัวเองได้ IBM คาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้งานได้ในช่วงปลายปีนี้
ในงานเดียวกัน IBM ได้ประกาศแผนที่จะให้บริการอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่นการให้บริการเช่าการ์ดจอ เพื่อซัพพอร์ตการประมวลผลงานที่ต้องใช้ AI มาก ๆ , แดชบอร์ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อวัด, ติดตาม, จัดการ และช่วยรายงานการปล่อยคาร์บอนบนคลาวด์ และแนวทางการนำ watsonx และ generative AI จาก IBM Consulting ไปใช้ในทางใหม่ ที่จะสนับสนุนให้ลูกค้านำ AI ไปใช้ได้ตามที่ต้องการมากยิ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ Foundation models คือโมเดล AI ที่ได้รับการฝึกไว้ก่อนแล้ว (pre-train) ด้วยข้อมูลที่ไม่ได้ระบุประเภท (unlabeled data) จำนวนมหาศาล โดยระบบจะพยายามเข้าใจและสร้างโมเดลของข้อมูลนั้นๆ ขึ้นมา ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการเตรียมใช้งานลง โมเดลเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานต่างๆ ได้ และใช้ข้อมูลที่ระบุประเภท (labeled data) น้อยลงกว่าในปัจจุบัน 10 ถึง 100 เท่าด้วย โดย Foundation models สามารถเป็นพื้นฐานให้กับระบบ AI ต่าง ๆ ได้ โดยใช้ข้อมูลที่ได้เรียนรู้จากสถานการณ์หนึ่งกับอีกสถานการณ์หนึ่ง ผ่าน Machine Learning
แหล่งที่มา :
- ภาพและบทความภาษาไทย : beartai.com