Huawei เปิดตัว 5G-A Pioneers Program ครั้งแรกในโลก ปลดล็อกประสิทธิภาพ 5.5G ดีขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า

หลังจากที่ Huawei ประสบความสำเร็จกับเครือข่าย 5G ในระดับโลกไปแล้ว ก็มีข่าวเรื่องการพัฒนาโซลูชัน 5G-A (5G-Advance) หรือ 5.5G ออกมาเรื่อย ๆ ทั้งการทดสอบกับระบบขับขี่อัตโนมัติในกรุงปักกิ่ง เพื่อโชว์ประสิทธิภาพที่สูงกว่า

ล่าสุดประกาศเปิดตัว “5G-A​ Pioneers Program ครั้งแรกในโลก” ที่มหกรรม Mobile World Congress Shanghai 2024 (MWC Shanghai 2024) ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และร่วมหารือกับผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำระดับโลก เพื่อวางแนวทางในการนำโซลูชันมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ถือเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม 5G เพราะในปี พ.ศ. 2567 นี้จะเป็นปีแรกของการให้บริการเครือข่าย 5G-Advance ในเชิงพาณิชย์

5G-Advance หรือ 5.5G ถือเป็นโซลูชันใหม่ที่รวมหลายเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน โดยจะมีการอัปเกรดโครงข่ายไร้สาย 5G ให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมถึง 10 เท่า ทั้งในด้านความเร็วในการรับข้อมูล (Download), ส่งข้อมูล (Upload),​ ค่าความหน่วง (Latency), จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ รวมถึงการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะทำให้เกิดนวัตกรรม โปรดักต์ และรูปแบบการใช้งานใหม่ ๆ ทั้งฝั่งผู้บริโภค (Consumer) และฝั่งอุตสาหกรรม (Industrial) ปัจจุบันมีการนำ 5.5G ไปใช้ในเมืองใหญ่แล้ว เช่น หางโจว,​ เซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง, เซินเจิ้น, เยอรมัน, ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และฮ่องกง

โดยโครงการ 5G-Advance Pioneers Program ที่นำโดย Huawei มีผู้ให้บริการชั้นนำทั่วโลกเข้าร่วม นำโดย 3 ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีนอย่าง HKT, du และ Oman Telecommunications หารือนโยบายในการขับเคลื่อนเครือข่าย 5G-Advance หรือ 5.5G และมีฉันทมติร่วมกัน 6 ประการ โดยข้อตกลงระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ 5.5G อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยการสนับสนุนผู้บุกเบิกการให้บริการเครือข่าย, กำหนดเมืองนำร่องในการให้บริการเครือข่าย, การยกระดับโมเดลธุรกิจ, สร้างเครือข่ายคุณภาพสูง, พัฒนานวัตกรรมการบริการ และบ่มเพาะ Ecosystem ที่เติบโตอย่างยั่งยืน

Mr. David Wang กรรมการบริหารและประธานคณะกรรมการบริหารโครงสร้างพื้นฐาน ICT ของ Huawei กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘วางรากฐานสู่ความสำเร็จร่วมกันด้วย 5G-A’ ไว้ว่า “5G-A จะช่วยวางรากฐานสู่ความก้าวหน้าและรักษามูลค่าการลงทุน ในขณะเดียวกันจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ด้วยการขยายขอบเขตธุรกิจให้กว้างกว่าที่เคย ในขณะที่เรามุ่งสู่ปี พ.ศ. 2573 อุตสาหกรรมโดยรวมต้องเร่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับเทคโนโลยี 5G-A และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของ 5G เราจึงจะสามารถรับประกันการเติบโตในระยะยาวของอุตสาหกรรม 5G และสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้นสำหรับเราทุกคนได้ โดย Huawei รอคอยที่จะทำงานร่วมกับผู้เล่นในอุตสาหกรรม เพื่อบ่มเพาะ Ecosystem 5G-A ที่แข็งแกร่ง อัปเกรดมาตรฐาน 5G-A และแบ่งปันประโยชน์ที่เกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยี 5G-A ให้ครอบคลุมทั่วถึง หากร่วมมือกัน เราจะเร่งนำโลกอัจฉริยะมาสู่ความจริงได้เร็วขึ้น”

นอกจากการประกาศเปิดตัวโครงการ 5G-A Pioneers Program แล้ว ทาง Huawei ยังโชว์เคสให้ดูอีกว่าการนำ 5.5G มาใช้งานร่วมกับ Cloud AI จะช่วยสร้างประสบการณ์ใช้งานใหม่ ๆ ในการใช้งาน AI บนอุปกรณ์พกพา (Mobile AI) เช่น New Calling ระบบโทรศัพท์บนคลาวด์ (Cloud Phones) และเทคโนโลยี 3D ไร้แว่นตา (Glasses-free 3D) เป็นต้น ทั้งหมดล้วนมีข้อกำหนดด้านเครือข่ายที่สูงกว่าที่เป็นมา เช่น ความเร็วที่สูงขึ้นและค่าความหน่วงที่ต่ำลง ในด้านบริการอุตสาหกรรมเร็ว ๆ นี้ เราจะเห็นประโยชน์เชิงพาณิชย์ของเครือข่าย 5G ระลอกที่สอง ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ 100,000 ล้านจุดที่ขับเคลื่อนโดยบริการในทุกสถานการณ์ และการยกระดับอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนโดยโมเดลธุรกิจใหม่

โดย Mr. David Wang กล่าวเสริมว่า “2567 เป็นปีแรกของ 5.5G เชิงพาณิชย์และการบูรณาการ AI เข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ และยุคทองของเทคโนโลยี AI บนมือถือกำลังใกล้เข้ามา ซึ่งจะทำให้การบริการอัจฉริยะแพร่หลาย และเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญ 3 ประการในยุคนี้

ประการแรก ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนจากการสัมผัสเป็นแบบต่อเนื่องหลายรูปแบบ ซึ่งหมายความว่าวิธีที่เราโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์จะขยายไปสู่ภาษา ท่าทาง และอารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยมอบประสบการณ์ตามความต้องการได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

ประการที่สอง การพลิกโฉมการผลิตเนื้อหา ก่อนหน้านี้ ผู้คนได้รับข้อมูลผ่านเครื่องมือค้นหาเป็นหลัก ในอนาคตข้อมูลดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นโดย AI และการผลิตข้อมูลจะไม่ถูกสร้างไว้ก่อน แต่จะถูกปรับแต่งตามความต้องการ ให้บริการแบบเรียลไทม์เฉพาะบุคคลอย่างครอบคลุม

ประการที่สาม อุปกรณ์เคลื่อนที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เนื่องจากอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่จะเปลี่ยนจากสมาร์ตโฟนเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี AI terminal และ embodied AI ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์มือถือจะกลายเป็นช่องทางเชื่อมต่อ AI โดยสมบูรณ์แบบ

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเทคโนโลยี AI บนมือถือจะช่วยสร้างประสบการณ์สดใหม่ให้สังคมและสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมมือถือ”

ในอนาคต Huawei วางแผนที่จะมุ่งสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมของผู้ให้บริการ ทั้งด้านเครือข่าย, การบริการ และ Ecosystem อีกทั้งยังช่วยผลักดันขีดความสามารถในการแข่งขันที่เหนือระดับในยุค 5G-A โดยเป้าหมายของ Huawei คือมุ่งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเปี่ยมความอัจฉริยะ เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่น่าอยู่กว่าที่เคย

ปี พ.ศ. 2567 นับเป็นปีแรกของการให้บริการ 5G-A ในเชิงพาณิชย์ และมีการเริ่มใช้เครือข่ายออปติคอล F5G-A ระดับกิกะบิต การผสานการทำงานระหว่างระบบเครือข่าย, คลาวด์, และระบบอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มการใช้งานแอปพลิเคชันอัจฉริยะให้แพร่หลายและสร้างประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Huawei ยังร่วมเจาะลึกประเด็นที่ท้าทายร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลก, ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม, และผู้นำความคิดต่าง ๆ เช่น การขยายความสำเร็จของ 5G ในยุค 5G-A และการใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เกิดจากการเติบโตของรายได้จากเหล่าผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อนำทางสู่โลกอัจฉริยะได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

แหล่งที่มา :

    • ภาพและบทความภาษาไทยคัดลอกจาก beartai.com