มาทำความรู้จักกับ DisplayPort คืออะไร มีกี่ประเภท

display port

DisplayPort คืออะไร

DisplayPort (DP) เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อภาพและเสียงดิจิทัลที่พัฒนาโดย VESA (Video Electronics Standards Association) เพื่อใช้ในการส่งสัญญาณวิดีโอและเสียงระหว่างอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์, จอภาพ, และโปรเจคเตอร์ DisplayPort มีความสามารถในการส่งข้อมูลที่ความเร็วสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความคมชัดสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเล่นเกม และงานกราฟิกระดับมืออาชีพ

เวอร์ชันของ DisplayPort และสเปค

DisplayPort มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความละเอียดที่สูงขึ้นและอัตราการส่งข้อมูลที่มากขึ้น โดยเวอร์ชันหลักมีดังนี้

DisplayPort 1.0/1.1 (เปิดตัวในปี 2006)

  • แบนด์วิธสูงสุด 8.64 Gbps
  • ความละเอียดสูงสุด รองรับ 4K UHD (3840×2160) ที่ 30 Hz

รายละเอียดเพิ่มเติม เวอร์ชันแรกของ DisplayPort ได้รับการออกแบบเพื่อแทนที่พอร์ต VGA และ DVI ในการเชื่อมต่อจอภาพ โดยรองรับความละเอียดที่สูงขึ้นในยุคที่การแสดงผลแบบ Full HD (1920×1080) กำลังเริ่มเป็นที่นิยม ข้อดีสำคัญคือสามารถส่งสัญญาณทั้งภาพและเสียงผ่านสายเส้นเดียว

DisplayPort 1.2 (เปิดตัวในปี 2010)

  • แบนด์วิธสูงสุด 17.28 Gbps
  • ความละเอียดสูงสุด รองรับ 4K UHD (3840×2160) ที่ 60 Hz
  • คุณสมบัติเด่น
    • Multi-Stream Transport (MST) คุณสมบัติที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อจอภาพหลายจอได้จากพอร์ตเดียวผ่านสายเส้นเดียว
    • สีและเสียงที่ดีขึ้น รองรับการส่งสัญญาณเสียงแบบหลายช่อง (multi-channel audio) และสีแบบ deep color

รายละเอียดเพิ่มเติม DisplayPort 1.2 มีความสามารถในการส่งข้อมูลสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้า และเริ่มรองรับเทคโนโลยีใหม่ เช่น การใช้งานกับจอภาพหลายจอพร้อมกัน โดยจอสามารถมีความละเอียดต่างกันได้ MST กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยให้การใช้งานหลายจอเป็นไปอย่างราบรื่น

DisplayPort 1.3 (เปิดตัวในปี 2014)

  • แบนด์วิธสูงสุด 32.4 Gbps
  • ความละเอียดสูงสุด รองรับ 5K (5120×2880) ที่ 60 Hz และ 8K (7680×4320) ที่ 30 Hz

คุณสมบัติเด่น

  1. เพิ่มแบนด์วิธขึ้นอย่างมาก ทำให้รองรับความละเอียดที่สูงขึ้นและรีเฟรชเรทที่สูงขึ้น
  2. รองรับจอภาพ 8K ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมภาพ

รายละเอียดเพิ่มเติม เวอร์ชันนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงสุดในยุคนั้น เช่น งานตัดต่อวิดีโอ 4K และ 5K หรือการใช้งานกับจอภาพ ultra-wide ที่ต้องการข้อมูลจำนวนมาก

DisplayPort 1.4 (เปิดตัวในปี 2016)

  • แบนด์วิธสูงสุด 32.4 Gbps
  • ความละเอียดสูงสุด รองรับ 8K (7680×4320) ที่ 60 Hz ด้วย DSC (Display Stream Compression)
  • คุณสมบัติเด่น
    • รองรับ HDR10 ทำให้การแสดงภาพมีความคมชัดและสีสันสมจริงมากขึ้น
    • การใช้การบีบอัดสัญญาณ DSC เพื่อส่งสัญญาณ 8K โดยไม่สูญเสียคุณภาพ

รายละเอียดเพิ่มเติม DisplayPort 1.4 ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมที่ต้องการความละเอียดและสีที่ดีขึ้น เช่น HDR และการส่งสัญญาณแบบ 10-bit ทำให้เหมาะสำหรับงานภาพยนตร์ การเล่นเกม และกราฟิกระดับสูง

DisplayPort 2.0 (เปิดตัวในปี 2019)

  • แบนด์วิธสูงสุด 77.37 Gbps
  • ความละเอียดสูงสุด รองรับ 16K (15360×8640) ที่ 60 Hz
  • คุณสมบัติเด่น
    • รองรับ HDR ที่ดีขึ้นและสี 10-bit ขึ้นไป
    • สามารถแสดงผลแบบ 4K/240 Hz ได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการเล่นเกม
    • รองรับการใช้งานหลายจอภาพพร้อมกันที่ความละเอียดสูง

รายละเอียดเพิ่มเติม DisplayPort 2.0 มีแบนด์วิธที่สูงกว่า HDMI 2.1 (48 Gbps) อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยให้สามารถแสดงผลที่ละเอียดและรีเฟรชเรทที่สูงขึ้นสำหรับอนาคต อาทิ จอภาพ 16K และการใช้งาน VR หรือ AR ระดับสูง

การเปรียบเทียบระหว่างเวอร์ชัน

เวอร์ชันแบนด์วิธ (Gbps)ความละเอียดสูงสุดคุณสมบัติเด่น
DisplayPort 1.0/1.18.644K @ 30 Hzรองรับสัญญาณภาพและเสียงผ่านสายเดียว
DisplayPort 1.217.284K @ 60 HzMulti-Stream Transport (MST)
DisplayPort 1.332.48K @ 30 Hzรองรับ 5K และ 8K พร้อมแบนด์วิธที่เพิ่มขึ้น
DisplayPort 1.432.48K @ 60 Hz (DSC)รองรับ HDR10 และการบีบอัด DSC
DisplayPort 2.077.3716K @ 60 Hzรองรับ 4K/240 Hz และจอหลายจอที่ความละเอียดสูง

DisplayPort มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการด้านภาพและเสียงในอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้า ตั้งแต่การส่งสัญญาณ 4K ในยุคแรกจนถึงการรองรับ 16K และการเล่นเกมแบบ 4K/240 Hz ในปัจจุบัน โดยเวอร์ชันล่าสุดอย่าง 2.0 ถือเป็นมาตรฐานสำหรับการใช้งานที่ต้องการความละเอียดและรีเฟรชเรทสูงในอนาคต

Connector Port Type ของ DisplayPort

DisplayPort มีตัวเชื่อมต่อ (Connector) หลายแบบเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย

1. Standard DisplayPort

  • ลักษณะทางกายภาพ
    ตัวเชื่อมต่อ DisplayPort มาตรฐานมีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น มีรูปทรงสี่เหลี่ยมและด้านหนึ่งจะมีมุมโค้งเพื่อป้องกันการเสียบกลับด้าน
  • การใช้งาน
    มักใช้ในพีซี, เดสก์ท็อป, และจอภาพระดับมืออาชีพ ตัวพอร์ตนี้ออกแบบมาให้มีการล็อก (Lock Mechanism) เพื่อป้องกันสายหลุดโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความมั่นคงและการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย
  • ข้อดี
    • รองรับการส่งสัญญาณภาพและเสียงคุณภาพสูง
    • มีฟีเจอร์ Multi-Stream Transport (MST)
    • ทนทานและใช้งานได้หลากหลาย
  • ข้อเสีย
    • ขนาดใหญ่ ไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่เน้นพกพา

2. Mini DisplayPort (mDP)

  • ลักษณะทางกายภาพ
    ขนาดเล็กกว่า Standard DisplayPort อย่างมาก มีรูปทรงสี่เหลี่ยมที่เรียวบาง
  • พัฒนาโดย
    Mini DisplayPort ถูกออกแบบโดย Apple ในปี 2008 และถูกนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple หลายรุ่น เช่น MacBook และ iMac ก่อนจะถูกใช้อย่างแพร่หลายในอุปกรณ์อื่น
  • การใช้งาน
    ใช้ในอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก เช่น แล็ปท็อป และบางครั้งในจอมอนิเตอร์ระดับมืออาชีพ
  • คุณสมบัติ
    • รองรับความละเอียดและฟีเจอร์เช่นเดียวกับ DisplayPort มาตรฐาน
    • สามารถใช้งานร่วมกับ Thunderbolt ได้ (เนื่องจาก Thunderbolt ใช้พอร์ตเดียวกันกับ Mini DisplayPort)
  • ข้อดี
    • ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับอุปกรณ์พกพา
    • ใช้งานได้หลากหลายกับทั้ง DisplayPort และ Thunderbolt
  • ข้อเสีย
    • ความแข็งแรงของพอร์ตอาจน้อยกว่า Standard DisplayPort
    • ไม่เป็นที่นิยมในอุปกรณ์ทั่วไปเท่าพอร์ตมาตรฐาน

3. USB-C DisplayPort Alt Mode

  • ลักษณะทางกายภาพ
    ใช้พอร์ต USB-C ที่มีรูปทรงรีแบบสมมาตร
  • การทำงาน
    พอร์ต USB-C สามารถทำงานในโหมด DisplayPort Alt Mode ได้ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณภาพและเสียงผ่าน USB-C โดยไม่ต้องใช้พอร์ต DisplayPort แบบเฉพาะเจาะจง
  • การใช้งาน
    • นิยมในแล็ปท็อปรุ่นใหม่, สมาร์ทโฟน, และแท็บเล็ต
    • ใช้เชื่อมต่อจอมอนิเตอร์ที่รองรับ USB-C
  • ข้อดี
    • รองรับการส่งข้อมูลแบบความเร็วสูง
    • สามารถใช้งานได้ทั้งการชาร์จไฟ, ส่งข้อมูล, และแสดงผลผ่านพอร์ตเดียว
    • ขนาดเล็กและสะดวก
  • ข้อเสีย
    • อุปกรณ์ต้องรองรับ DisplayPort Alt Mode ถึงจะใช้งานได้
    • สาย USB-C ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีปัญหาในการส่งสัญญาณ

4. Embedded DisplayPort (eDP)

  • ลักษณะทางกายภาพ
    ตัวเชื่อมต่อ eDP ถูกออกแบบให้ฝังตัวในอุปกรณ์ และมักไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก
  • การใช้งาน
    ใช้ในอุปกรณ์ฝังตัว เช่น หน้าจอโน้ตบุ๊ก, แท็บเล็ต, และหน้าจอแบบบูรณาการในอุปกรณ์เฉพาะ
  • คุณสมบัติ
    • รองรับการส่งสัญญาณที่ความเร็วสูง
    • ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่มีความต้องการเฉพาะ เช่น ลดการใช้พลังงานในอุปกรณ์พกพา
  • ข้อดี
    • ใช้พลังงานต่ำ ทำให้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานมากขึ้น
    • เชื่อมต่อโดยตรงกับหน้าจอโดยไม่ต้องใช้สายแยก
  • ข้อเสีย
    • ใช้ได้เฉพาะในอุปกรณ์ฝังตัว ไม่สามารถใช้งานทั่วไปได้
    • ไม่สามารถเปลี่ยนหรือปรับปรุงพอร์ตได้

สรุป ความแตกต่างและการเลือกใช้งาน

Typeลักษณะเด่นการใช้งานหลัก
Standard DisplayPortขนาดใหญ่และมีล็อกคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและจอมืออาชีพ
Mini DisplayPortขนาดเล็กและรองรับ Thunderboltแล็ปท็อปและอุปกรณ์พกพา
USB-C DisplayPort Alt Modeใช้พอร์ต USB-C เอนกประสงค์แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต
Embedded DisplayPortฝังตัวในอุปกรณ์เพื่อลดการใช้พลังงานหน้าจอโน้ตบุ๊กและอุปกรณ์ฝังตัว

DisplayPort มี Connector Port Type ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการในอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งการเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับขนาดอุปกรณ์และความสะดวกของผู้ใช้

ข้อดีและข้อเสียของ DisplayPort

ข้อดี

  1. แบนด์วิธสูง รองรับความละเอียดและรีเฟรชเรทที่สูงกว่า HDMI ในเวอร์ชันเดียวกัน
  2. Multi-Stream Transport (MST) เชื่อมต่อหลายจอผ่านสายเส้นเดียว
  3. รองรับการบีบอัดข้อมูล (DSC) เพื่อส่งสัญญาณวิดีโอคุณภาพสูง
  4. เทคโนโลยี Adaptive Sync เช่น G-Sync และ FreeSync สำหรับการเล่นเกม
  5. การออกแบบล็อก ลดโอกาสที่สายจะหลุด

ข้อเสีย

  1. การรองรับอุปกรณ์ที่จำกัดกว่า HDMI โดยเฉพาะในโทรทัศน์
  2. ราคาสูงกว่า HDMI ในบางรุ่น
  3. การบังคับใช้สิทธิบัตร ที่เข้มงวดในบางประเทศ

เปรียบเทียบ DisplayPort กับ HDMI

คุณสมบัติDisplayPortHDMI
แบนด์วิธสูงสุด77.37 Gbps (DP 2.0)48 Gbps (HDMI 2.1)
ความละเอียดสูงสุด16K ที่ 60 Hz10K ที่ 120 Hz
การเชื่อมต่อหลายจอรองรับผ่าน MSTไม่รองรับ
การใช้งานหลักคอมพิวเตอร์และจอภาพโทรทัศน์และอุปกรณ์บันเทิง
ความนิยมน้อยกว่าในตลาดผู้บริโภคทั่วไปนิยมในโทรทัศน์และเครื่องเล่นเกม
ราคาโดยเฉลี่ยสูงกว่า HDMIราคาถูกกว่าในระดับเดียวกัน

สรุป

DisplayPort เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการส่งสัญญาณวิดีโอและเสียงคุณภาพสูง โดยเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น งานกราฟิก, การเล่นเกม, และการตัดต่อวิดีโอ แม้ว่าจะมีข้อเสียในด้านการใช้งานทั่วไปน้อยกว่า HDMI แต่ DisplayPort ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับมืออาชีพและนักเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *