TP-Link เปิดตัวอุปกรณ์ Wi-Fi 7 รายแรกของไทยพร้อมโชว์ความเร็วแรงระดับ 5Gbps

หลังจากที่ AIS Fiber ออกมาประกาศว่าในปีหน้าจะให้บริการ Wi-Fi 7 แบรนด์ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายอย่าง อย่าง TP-Link ก็ออกมาขยับตัวจัดงานเปิดตัวอุปกรณ์ Wi-Fi 7 เช่นกัน ซึ่งเป็นการเปิดตัวก่อนจะมีการประกาศเปิดใช้อย่างเป็นทางการในช่วงปีหน้า (2567)

ตามสเปกแล้ว Wi-Fi 7 จะมีความเร็วที่สูงกว่า Wi-Fi 6 อยู่ที่ 4.8 เท่า และมีค่าความหน่วง (Latency) ลดลง 100 เท่า และรองรับอุปกรณ์ที่เข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้น 5 เท่า กับความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงสุดถึง 46Gbps นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ช่วยให้การรับส่งข้อมูลไร้สายได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น Multi-Link Operation, Bandwidth 320MHz, 16×16 Mu-MIMO, 4K QAM, Multi-RU และ Preamble Punching

โดยโปรดักต์ที่ทาง TP-Link เอามาเปิดตัวในครั้งนี้มาพร้อมกับมาตรฐาน Wi-Fi 7 หรือ IEEE standard is 802.11be Extreme High Throughput (EHT) ประกอบด้วย 3 ซีรีส์หลัก นั่นก็คือ Deco, Archer และ Omada

Deco เป็นอุปกรณ์ Mesh Wi-Fi เพื่อกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมบ้านทั้งหลัง มีอยู่ด้วยการ 2 รุ่นคือ Deco BE85 และ Deco BE65 จุดเด่นคือมีการใช้ซีพียูสูงสุดแบบ Quad Core และยังระบบระบายความร้อนด้วยพัดลมเพื่อให้การทำงานมีความเสถียรขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 200 ชิ้นในตัวเดียว ซึ่งทำความเร็วได้สูงสุดที่ 22Gbps และมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ Multi-Gigabit

Archer เป็นอุปกรณ์ Router ที่มีสองรุ่นคือ Archer BE800 และ BE550 ทั้งคู่จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่ดูล้ำมากขึ้น โดยเปลี่ยนดีไซน์จากเดิมที่เป็นอุปกรณ์แบน ๆ ที่มีเสาสัญญาณอยู่ด้านหลัง ให้กลายเป็นกล่องแนวตั้งที่ซ่อนเสาสูงสุดที่ 8 เสาไว้ภายในตัวเครื่อง ทำให้ดูทันสมัย การรับส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi ก็เร็วสูงสุดที่ 19 Gbps นอกจากนี้ที่ด้านหน้าของเครื่องยังมีฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่าง หน้าจอ LED ที่แสดงเป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้ รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อ 10Gbps สูงสุด 2 ช่องทางด้านหลัง

Omada เป็นอุปกรณ์ Access Point ที่ช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ทั่วถึงในบ้าน หรืออาคารใหญ่ ๆ ทำให้ทุกที่และทุกอุปกรณ์สามารถเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง โดยมีเสาสัญญาณถึง 12 ตัวภายใน โอนถ่ายข้อมูลได้เร็วสุด 22 Gbps ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กร โรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล และสถานที่ราชการ

การที่มีความเร็วสูงจะช่วยให้เกิดรูปแบบการใช้งานไร้สายใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น การดูหนังแบบสตรีมมิงความละเอียดสูง 4K/8K, การเล่นเกมผ่าน Cloud โดยไม่ต้องติดตั้งเกมไว้ในเครื่อง,​การใช้งานอุปกรณ์ AR / VR / XR อย่างลื่นไหลภาพไม่กระตุก นอกจากนี้ยังมีประโยชน์กับการใช้งานเชิงธุรกิจด้วย เช่น ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์โดยที่มีความหน่วง (Latency) น้อยลง,​ หรือใช้ควบคุมหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิต

สำหรับอุปกรณ์ที่ทาง TP-Link นำมาโชว์ในงานนี้ก็มีการประกาศราคาออกมาด้วย

• Router Archer
  • BE550 ราคา 9,990 บาท
    BE850 ราคา 19,990 บาท

• Deco BE65
  • 1 เครื่อง ราคา 9,990 บาท
  • 2 เครื่อง ราคา 18,990 บาท
  • 3 เครื่อง ราคา 27,990 บาท
• Deco BE85
  • 1 เครื่อง ราคา 19,990 บาท
  • 2 เครื่อง ราคา 38,990 บาท
  • 3 เครื่อง ราคา 57,990 บาท
• Odama
  • EAP 773 ราคา 25,990 บาท
  • EAP 783 ราคา 39,990 บาท

สำหรับซีรีส์ Archer และ Deco จะมีเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน และ Odama จะเริ่มจำหน่ายในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2566 นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันพิเศษที่ทาง TP-Link ไปร่วมกับ AIS เช่น ซื้อ Wi-Fi 7 Router ในราคาพิเศษ และ แพ็กเกจ Byod Broadband 2Gbps / 1Gbps ในราคา 1,299 บาท / เดือน